ปั
จจุบันมีสินค้าและบริการในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นมามากมาย ตัวอย่างเช่น การให้บริการเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นทางการเงิน เพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินเกิดขึ้นอย่างสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและมีเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้เกิดการทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดความชัดเจนระหว่างผู้ที่ต้องการจะขายกับผู้ที่ต้องการจะซื้อ โดยก่อนที่ผู้ที่จะดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ เขาเหล่านั้นต้องเข้าใจในกิจกรรมทางธุรกิจเสียก่อน เพื่อจะได้เป็นการวางแผนทางธุรกิจขั้นต้นก่อนที่จะลงมือทำ อีกทั้งป้องกันความเสี่ยงในการดำเนินงานในอนาคต โดยกิจกรรมทางธุรกิจ แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมหลักๆ
1. กิจกรรมจัดหาเงิน (financing activities)
เป็นกิจกรรมทางธุรกิจที่ผู้ที่จะดำเนินธุรกิจต้องเข้าใจว่าแหล่งเงินสำหรับดำเนินธุรกิจนั้นมาจากที่ใด ซึ่งโดยปกตินั้นผู้ดำเนินธุรกิจจะมีแหล่งเงินเพื่อใช่ในการดำเนินกิจการจากสองแหล่ง แหล่งที่หนึ่งคือจากการก่อหนี้สิน เช่น การกู้ยืมเงินจากธนาคาร เป็นต้น ส่วนแหล่งที่สองคือ การใช้เงินของส่วนของเจ้าของ นั่นก็คือ การที่ผู้ที่จะดำเนินธุรกิจนำเงินของตนเองออกใช้ในการดำเนินธุรกิจ
2. กิจกรรมลงทุน (investing activities)
หลังจากที่ผู้ดำเนินธุรกิจได้เงินจากแหล่งของเงินที่เลือกแล้ว เขาเหล่านั้นจะต้องนำเงินที่ได้มาซื้อสิ่งที่ใช้ในการดำเนินการทางธุรกิจนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการ Application เขาเหล่านั้นต้องมีการซื้อ server และ computer ที่มีคุณภาพเพื่อใช้ในการให้บริการของธุรกิจ
3. กิจกรรมดำเนินงาน (operating activities)
กิจกรรมนี้คือกิจกรรมตามปกติของธุรกิจ เช่น การขาย การซื้อ การจ่ายเงินค่าเงินเดือน การจ่ายภาษี เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่จะทำให้ผู้ดำเนินธุรกิจทราบว่าการดำเนินธุรกิจมีผลประกอบการ และฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร
